ปฏิวัติการเคลือบสีรถที่ง่ายและเงางาม

สำหรับคนรักรถคงเคยผ่านการใช้แว๊กซ์เคลือบรถแบบเดิมๆ ที่มีหลายขั้นตอน ใช้เวลานาน มีกลิ่นฉุนกันมาแล้วใช่มั้ยคะ แต่วันนี้โลกเปลี่ยนไป มีนวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายค่ะ Shiny Wax แว๊กซ์สูตรน้ำ เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ที่ปฏิวัติวงการแว๊กซ์เคลือบรถแบบเดิมๆ ที่ทั้งใช้ง่ายและเงางามขึ้น โดยการคิดค้นวิจัย ผ่านวิธีการผลิตที่ช่วยลดแรงตึงผิวของแว๊กซ์ ทำให้มีอนุภาคเล็กๆ ที่ช่วยเติมร่อง บริเวณผิวที่ขรุขระให้เรียบสนิท และสะสมจนมีความเงางาม ที่สำคัญไม่มีกลิ่นฉุน และยังปลอดภัยต่อสัตว์และสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ยิ่งล้างยิ่งเงางาม

การดูแลรถให้สะอาดและเงางามอยู่เสมอสามารถทำได้ง่ายๆ นั่นคือการล้างและเคลือบรถบ่อยๆ ซึ่งถือเป็นด่านแรกที่ช่วยป้องกันรถของคุณจากคราบสกปรกต่างๆ เนื่องจากการทำความสะอาดและเคลือบรถช่วยให้เกิดชั้นฟิล์มบางๆ เคลือบผิวรถไว้ ทำให้น้ำไม่เกาะผิวรถ ปกป้องสีรถจากแสงแดดและความร้อน ที่สำคัญล้างทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นเพราะคราบสกปรกไม่เกาะติดแน่นอีกด้วย ยิ่งตอนนี้แว๊กซ์มีหลายหลายประเภทให้เลือกตามความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นแชมพู โฟม หรือแว๊กซ์เคลือบสูตรน้ำ ที่สามารถเลือกใช้ได้ตามแต่ละสถานการณ์เลยค่ะ เพื่อจะช่วยให้รถคันโปรดของคุณสะอาดและเงางามยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ ใครที่ยังเลือกไม่ถูกว่าจะใช้สูตรไหนดี inbox เข้ามาถามแอดมินได้เลยนะคะ

ทำไม Shiny Wax ถึงไม่มีกลิ่นเหม็นเหมือนเว๊กซ์ทั่วไป?

คำถามยอดฮิตที่ถามกันเข้ามาเยอะมากว่า Shiny Wax มีกลิ่นฉุนเหมือนแว๊กซ์ทั่วไปมั้ย? แอดมินต้องของอธิบายว่า กลิ่นฉุนจากแว๊กซ์มาจากตัวทำละลายในขั้นตอนการผลิต ซึ่งมาจากโซเว้น หรือน้ำมัน ที่นำมาใช้ แต่สำหรับ Shiny Wax เป็นแว๊กซ์สูตรน้ำ ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ใช้น้ำเป็นวัสดุพื้นฐาน ดังนั้น Shiny Wax ก็เลยจะไม่มีกลิ่นฉุนแบบแว๊กซ์ทั่วไปค่ะ

3 ขั้นตอนการล้างรถสำหรับคนสุดเนี๊ยบ

เวลาว่างๆ ได้พักผ่อนอยู่บ้าน บางทีก็อยากจะดูแลรถคันเก่งกันหน่อยค่ะ ใช้กันมาแบบสมบุกสมบัน แต่ไม่ค่อยได้ดูแลกันหรือเปล่าคะ ปกติแอดมินไม่ค่อยมีเวลา เลยจะใช้ Shiny wax intensive foam ค่อนข้างบ่อย เพราะแค่ฉีดน้ำ ลงสเปรย์โฟม ถูทั่วคัน ล้างออก รถก็เงาพร้อมลุยแล้ว แต่ช่วงไหนที่ได้มีเวลาอยู่บ้านต้องจัดเต็มหน่อยค่ะ วันนี้แอดมินแนะนำล้างเคลือบทั้งภายในและภายนอกแบบ 3 สูตรค่ะ 1.ฉีดน้ำและล้างด้วย Shiny wax Premium Wash & Shine Intensive Shampoo Wax ก่อนเป็นชั้นแรก นอกจากจะเป็นแชมพูล้างรถสูตรเข้มข้นแล้ว ในตัวแชมพูยังมีแว๊กซ์ผสมอยู่ด้วยถือเป็นการล้างและเคลือบชั้นแรกค่ะ 2.ใช้ Shiny Wax Exterior Polish สเปรย์ลงบนตัวรถ พร้อมกับใช้ผ้าแห้งเช็ดวนตรงบริเวณที่สเปรย์ เพื่อให้แว๊กซ์เคลือบตัวรถได้สม่ำเสมอ ลืมการเคลือบแว๊กซ์ด้วยวิธีเก่าๆ ไปได้เลยค่ะ เพราะ Shiny wax สูตรน้ำ ใช้ง่าย เคลือบง่ายไม่ต้องออกแรงมาก ให้ความเงางามยาวนาน ไม่ทิ้งคราบขาว ที่สำคัญไม่มีกลิ่นเหม็นติดมือด้วยค่ะ 3.เราย้ายเข้ามาในตัวรถกันบ้างค่ะ กับ Shiny wax All Purpose Wax สเปรย์ลงบนคอนโซลพวงมาลัยรถ เบาะหนังให้ทั่วค่ะ ตามด้วยผ้าแห้งเช็ดวนจนขึ้นเงา อ่อ ย้ายออกมาเคลือบกระจกกันหน่อยค่ะ เพราะสูตรนี้เคลือบกระจกได้ดีมาก ทำให้ฝุ่นและน้ำไม่เกาะบนกระจก ทำให้ทัศนวิสัยเวลาขับรถดีเยี่ยมเลยค่ะ คนรักรถตัวจริงต้องลองให้ครบสูตรตามที่แอดมินแนะนำนะคะ แค่ครั้งแรกจะเห็นความแตกต่างเลย ว่าทั้งง่าย และเงาเหมือนเอาไปเคลือบที่ร้านเลยค่ะ

Q : ใช้ Shiny Wax เคลือบแล้วอยู่นานขนาดไหน?

A : เป็นคำถามยอดฮิตกันเลยนะคะ สำหรับคนที่ชอบดูแลสีผิวรถและรักความเงางาม วันนี้แอดมินมีสาระดีๆ จะอธิบายแบบนี้ค่ะ แว๊กซ์ที่เรานำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ Shiny wax Exterior Polish มาจากธรรมชาติเป็นหลัก ซึ่งมีจุดหลอมเหลวที่สูงเพื่อให้คงทนต่ออุณหภูมิและสภาพการใช้งานของรถที่แตกต่างกันออกไป และด้วยคุณสมบัติที่เป็นแว๊กซ์สูตรน้ำจึงสามารถซึมลึก เติมเต็มพื้นผิวที่ขรุขระ หรือเป็นหลุมให้ราบเรียบ จนผสานกันเกิดเป็นชั้นฟิล์มเคลือบที่ผิวที่แน่น ซึ่งจะคงทนกว่าสารเคลือบอื่นๆ ที่เกาะลอยอยู่บนพื้นผิว หากใช้ต่อเนื่องเกิน 3 ครั้ง ความเงางามนั้นก็จะคงอยู่ไปเรื่อยๆ ซึ่งสังเกตได้จากการล้าง ล้างง่าย ล้างลื่น ฝุ่นไม่ฝังแน่น เพราะสารเคลือบจะยังคงอยู่ ไม่หลุดออกง่าย เหมือนแว๊กซ์เดิมๆ ในท้องตลาดนั่นเองค่ะ

ยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญ

ยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญ พี่ภูจาก หจก.อุบลไดมอนด์ไบร์ท ยืนยันกับทีมงาน Shiny Wax ว่า ไม่ว่าจะขัดสีรถลูกค้าด้วยน้ำยาตัวไหน แต่ต้องปิดท้ายด้วย Shiny Wax Exterior Polish ผลิตภัณฑ์แว๊กซ์เคลือบสีที่ให้ความเงางามที่เหนือกว่า ง่ายกว่า สัมผัสนุ่ม ลื่น ไม่เป็นรอยนิ้วมือ จนลูกค้าชอบใจ เจาะจงขอให้ใช้ Shiny Wax เท่านั้น... แหม ได้รับคำชมแบบนี้ทีมงานก็ยิ้มไม่ยอมหุบกันเลยทีเดียวค่า

กฏของความเงา

เคยสงสัยกันมั้ยคะ ว่าทำไมหลังจากเราใช้แว๊กซ์เคลือบพื้นบ้าน หรือเคลือบรถ พื้นผิวของสิ่งที่เราเคลือบถึงได้เงาวับ ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้มีความเงาอยู่เลย เรื่องมันเป็นยังงี้ค่ะ วัตถุที่เราเห็นด้วยตาเปล่าว่ามีความเงาเนี่ย มาพร้อมกับการมีพื้นผิวที่เรียบ เมื่อมีแสงตกกระทบ แสงนั้นจึงสะท้อนขึ้นมาทันที ทำให้เราเห็นว่าพื้นนั้นเงา ในขณะเดียวกันหากพื้นผิวขรุขระ เมื่อแสงตกกระทบก็จะถูกพื้นผิวขรุขระนั้นดูดกลืนและไม่สะท้อนขึ้นมาค่ะ เพราะฉะนั้นการเคลือบพื้นด้วยแว๊กซ์ก็คือการเติมเต็มพื้นผิวที่ขรุขระให้เรียบนั้นเอง พอพื้นนั้นเรียบแล้ว จึงสามารถสะท้อนแสงที่ตกกระทบแล้วกลายเป็นความเงางามนั้นเองค่ะ