3 ขั้นตอนการล้างรถสำหรับคนสุดเนี๊ยบ

เวลาว่างๆ ได้พักผ่อนอยู่บ้าน บางทีก็อยากจะดูแลรถคันเก่งกันหน่อยค่ะ ใช้กันมาแบบสมบุกสมบัน แต่ไม่ค่อยได้ดูแลกันหรือเปล่าคะ ปกติแอดมินไม่ค่อยมีเวลา เลยจะใช้ Shiny wax intensive foam ค่อนข้างบ่อย เพราะแค่ฉีดน้ำ ลงสเปรย์โฟม ถูทั่วคัน ล้างออก รถก็เงาพร้อมลุยแล้ว แต่ช่วงไหนที่ได้มีเวลาอยู่บ้านต้องจัดเต็มหน่อยค่ะ วันนี้แอดมินแนะนำล้างเคลือบทั้งภายในและภายนอกแบบ 3 สูตรค่ะ 1.ฉีดน้ำและล้างด้วย Shiny wax Premium Wash & Shine Intensive Shampoo Wax ก่อนเป็นชั้นแรก นอกจากจะเป็นแชมพูล้างรถสูตรเข้มข้นแล้ว ในตัวแชมพูยังมีแว๊กซ์ผสมอยู่ด้วยถือเป็นการล้างและเคลือบชั้นแรกค่ะ 2.ใช้ Shiny Wax Exterior Polish สเปรย์ลงบนตัวรถ พร้อมกับใช้ผ้าแห้งเช็ดวนตรงบริเวณที่สเปรย์ เพื่อให้แว๊กซ์เคลือบตัวรถได้สม่ำเสมอ ลืมการเคลือบแว๊กซ์ด้วยวิธีเก่าๆ ไปได้เลยค่ะ เพราะ Shiny wax สูตรน้ำ ใช้ง่าย เคลือบง่ายไม่ต้องออกแรงมาก ให้ความเงางามยาวนาน ไม่ทิ้งคราบขาว ที่สำคัญไม่มีกลิ่นเหม็นติดมือด้วยค่ะ 3.เราย้ายเข้ามาในตัวรถกันบ้างค่ะ กับ Shiny wax All Purpose Wax สเปรย์ลงบนคอนโซลพวงมาลัยรถ เบาะหนังให้ทั่วค่ะ ตามด้วยผ้าแห้งเช็ดวนจนขึ้นเงา อ่อ ย้ายออกมาเคลือบกระจกกันหน่อยค่ะ เพราะสูตรนี้เคลือบกระจกได้ดีมาก ทำให้ฝุ่นและน้ำไม่เกาะบนกระจก ทำให้ทัศนวิสัยเวลาขับรถดีเยี่ยมเลยค่ะ คนรักรถตัวจริงต้องลองให้ครบสูตรตามที่แอดมินแนะนำนะคะ แค่ครั้งแรกจะเห็นความแตกต่างเลย ว่าทั้งง่าย และเงาเหมือนเอาไปเคลือบที่ร้านเลยค่ะ

กฏของความเงา

เคยสงสัยกันมั้ยคะ ว่าทำไมหลังจากเราใช้แว๊กซ์เคลือบพื้นบ้าน หรือเคลือบรถ พื้นผิวของสิ่งที่เราเคลือบถึงได้เงาวับ ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้มีความเงาอยู่เลย เรื่องมันเป็นยังงี้ค่ะ วัตถุที่เราเห็นด้วยตาเปล่าว่ามีความเงาเนี่ย มาพร้อมกับการมีพื้นผิวที่เรียบ เมื่อมีแสงตกกระทบ แสงนั้นจึงสะท้อนขึ้นมาทันที ทำให้เราเห็นว่าพื้นนั้นเงา ในขณะเดียวกันหากพื้นผิวขรุขระ เมื่อแสงตกกระทบก็จะถูกพื้นผิวขรุขระนั้นดูดกลืนและไม่สะท้อนขึ้นมาค่ะ เพราะฉะนั้นการเคลือบพื้นด้วยแว๊กซ์ก็คือการเติมเต็มพื้นผิวที่ขรุขระให้เรียบนั้นเอง พอพื้นนั้นเรียบแล้ว จึงสามารถสะท้อนแสงที่ตกกระทบแล้วกลายเป็นความเงางามนั้นเองค่ะ