ทำไมต้องแว๊กซ์สูตรน้ำ

หลายคนสงสัยว่าทำไมเราต้องทำแว๊กซ์สูตรน้ำออกมาด้วย แล้วจะช่วยให้รถหรือพื้นผิวเงางามได้จริงหรือไม่ ขออธิบายเพิ่มเติมแบบนี้ค่ะ เนื่องจากแว๊กซ์แบบเดิม มีสารประกอบจากตัวทำละลาย Petro Chemical ซึ่งเป็นอันตราย มีกลิ่นฉุน มีความหนืดสูง ใช้งานลำบาก แถมยังระเหยช้า ทำให้พื้นผิวเหนอะหนะ Shiny Wax จึงได้วิจัยและพัฒนาแว๊กซ์สูตรน้ำ ที่มีคุณสมบัติให้ความเงางาม แห้งไว ไม่เหนอะหนะ กลิ่นไม่ฉุน ปลอดภัยไม่ระคายเคืองผิวหนัง ที่ผ่านการับรองจากสถาบัน Dermscan Asia เรียกได้ว่าเป็นการแก้ไขปัญหาโดยที่คุณสมบัติหลักของแว๊กซ์ไม่บกพร่องอีกด้วย รู้หรือยังคะ...ว่าทำไมต้องแว๊กซ์สูตรน้ำ #ShinyWax

ปฏิวัติการเคลือบสีรถที่ง่ายและเงางาม

สำหรับคนรักรถคงเคยผ่านการใช้แว๊กซ์เคลือบรถแบบเดิมๆ ที่มีหลายขั้นตอน ใช้เวลานาน มีกลิ่นฉุนกันมาแล้วใช่มั้ยคะ แต่วันนี้โลกเปลี่ยนไป มีนวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายค่ะ Shiny Wax แว๊กซ์สูตรน้ำ เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ที่ปฏิวัติวงการแว๊กซ์เคลือบรถแบบเดิมๆ ที่ทั้งใช้ง่ายและเงางามขึ้น โดยการคิดค้นวิจัย ผ่านวิธีการผลิตที่ช่วยลดแรงตึงผิวของแว๊กซ์ ทำให้มีอนุภาคเล็กๆ ที่ช่วยเติมร่อง บริเวณผิวที่ขรุขระให้เรียบสนิท และสะสมจนมีความเงางาม ที่สำคัญไม่มีกลิ่นฉุน และยังปลอดภัยต่อสัตว์และสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

Q: "จอดรถตากแดดบ่อยๆ ใช้อะไรปกป้องผิวรถดีครับ"

ฟังแล้วก็น่าเห็นใจนะคะ แหม...รถใครก็ต้องรักอยู่แล้วแต่ในเมื่อไม่มีทางเลือกแบบนี้ แอดมินแนะนำให้เคลือบสีรถด้วย Shiny wax Premium Exterior Polish ค่ะ เพราะเป็นแว๊กซ์ทนอุณหภูมิได้สูง จึงไม่ถูกทำลายเมื่อจอดตากแดด สามารถทนต่อแสงแดด ช่วยปกป้องผิวรถของคุณได้ยาวนานตลอดวัน แถมยังใช้งานง่ายแค่ฉีดแล้วเช็ด รถก็เงางามได้ทันทีอีกด้วยค่ะ

ยิ่งล้างยิ่งเงางาม

การดูแลรถให้สะอาดและเงางามอยู่เสมอสามารถทำได้ง่ายๆ นั่นคือการล้างและเคลือบรถบ่อยๆ ซึ่งถือเป็นด่านแรกที่ช่วยป้องกันรถของคุณจากคราบสกปรกต่างๆ เนื่องจากการทำความสะอาดและเคลือบรถช่วยให้เกิดชั้นฟิล์มบางๆ เคลือบผิวรถไว้ ทำให้น้ำไม่เกาะผิวรถ ปกป้องสีรถจากแสงแดดและความร้อน ที่สำคัญล้างทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นเพราะคราบสกปรกไม่เกาะติดแน่นอีกด้วย ยิ่งตอนนี้แว๊กซ์มีหลายหลายประเภทให้เลือกตามความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นแชมพู โฟม หรือแว๊กซ์เคลือบสูตรน้ำ ที่สามารถเลือกใช้ได้ตามแต่ละสถานการณ์เลยค่ะ เพื่อจะช่วยให้รถคันโปรดของคุณสะอาดและเงางามยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ ใครที่ยังเลือกไม่ถูกว่าจะใช้สูตรไหนดี inbox เข้ามาถามแอดมินได้เลยนะคะ

ทำไม Shiny Wax ถึงไม่มีกลิ่นเหม็นเหมือนเว๊กซ์ทั่วไป?

คำถามยอดฮิตที่ถามกันเข้ามาเยอะมากว่า Shiny Wax มีกลิ่นฉุนเหมือนแว๊กซ์ทั่วไปมั้ย? แอดมินต้องของอธิบายว่า กลิ่นฉุนจากแว๊กซ์มาจากตัวทำละลายในขั้นตอนการผลิต ซึ่งมาจากโซเว้น หรือน้ำมัน ที่นำมาใช้ แต่สำหรับ Shiny Wax เป็นแว๊กซ์สูตรน้ำ ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ใช้น้ำเป็นวัสดุพื้นฐาน ดังนั้น Shiny Wax ก็เลยจะไม่มีกลิ่นฉุนแบบแว๊กซ์ทั่วไปค่ะ

ง่าย...จนใครๆ ก็ล้างได้

แอดมินสารภาพเลยค่ะ ว่าเมื่อก่อนเป็นคนที่ขี้เกียจล้างรถมาก คือการล้างรถมันค่อนข้างยุ่งยากและใช้แรงสำหรับผู้หญิงนะคะ กว่าจะล้างเสร็จเล่นเอาเหงื่อตก เลยเล่นทางลัดคือใช้บริการล้างรถค่ะ หนักๆ เข้าจะล้างบ่อยๆ ก็ไม่ไหวค่ะ หลายๆ ครั้งก็แอบกระเป๋าฉีกอยู่นะคะ เลยเริ่มต้นจากผลิตภัณฑ์ที่ว่ากันว่าใช้ง่ายที่สุด ไม่ต้องใช้แรงมาก ง่ายจนใครๆ ก็ล้างได้ พอลองใช้จริงก็ง่ายมากจริงๆ ค่ะ แถมโฟมที่กดออกมาก็แน่น นุ่ม เหมือนวิปโฟมล้างหน้า ยิ่งล้างยิ่งเพลินค่ะ รู้ตัวอีกที อ่าวววว ล้างไปจนหมดคันแล้ว สาวๆ ที่เคยรู้สึกว่าการล้างรถเป็นเรื่องยากเหมือนแอดมิน ต้องลอง Shiny Wax Premium Wash & Shine Intensive Foam Wax นะคะ แล้วจะรู้สึกว่า ล้างรถมันไม่ใช่เรื่องยากเลยจริงๆค่ะ

นวัตกรรมแว๊กซ์สูตรน้ำ

หลายๆ คนคงจะคุ้นเคยกับแว๊กซ์ที่มีกลิ่นฉุน เหนียวเหนอะหนะใช่มั้ยคะ และคงกำลังสงสัยว่า Shiny Wax แตกต่างจากแว๊กซ์สูตรเดิมอย่างไร เทคโนโลยีการผลิตแว๊กซ์สูตรน้ำ หรือ "Wax Emulsion" คือทำให้แว๊กซ์มีโมเลกุลเล็กลง และทำให้แว๊กซ์แขวนลอยคงที่ในน้ำ ด้วยสาร Emulsifier จึงเกิดมาเป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งทำให้แว๊กซ์ไม่มีกลิ่น สามารถผสมกับส่วนผสมอื่นๆ ก่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่สูตรน้ำ ที่น่าใช้กว่าเดิมนั่นเองค่ะ

Q : ใช้ Shiny Wax เคลือบแล้วอยู่นานขนาดไหน?

A : เป็นคำถามยอดฮิตกันเลยนะคะ สำหรับคนที่ชอบดูแลสีผิวรถและรักความเงางาม วันนี้แอดมินมีสาระดีๆ จะอธิบายแบบนี้ค่ะ แว๊กซ์ที่เรานำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ Shiny wax Exterior Polish มาจากธรรมชาติเป็นหลัก ซึ่งมีจุดหลอมเหลวที่สูงเพื่อให้คงทนต่ออุณหภูมิและสภาพการใช้งานของรถที่แตกต่างกันออกไป และด้วยคุณสมบัติที่เป็นแว๊กซ์สูตรน้ำจึงสามารถซึมลึก เติมเต็มพื้นผิวที่ขรุขระ หรือเป็นหลุมให้ราบเรียบ จนผสานกันเกิดเป็นชั้นฟิล์มเคลือบที่ผิวที่แน่น ซึ่งจะคงทนกว่าสารเคลือบอื่นๆ ที่เกาะลอยอยู่บนพื้นผิว หากใช้ต่อเนื่องเกิน 3 ครั้ง ความเงางามนั้นก็จะคงอยู่ไปเรื่อยๆ ซึ่งสังเกตได้จากการล้าง ล้างง่าย ล้างลื่น ฝุ่นไม่ฝังแน่น เพราะสารเคลือบจะยังคงอยู่ ไม่หลุดออกง่าย เหมือนแว๊กซ์เดิมๆ ในท้องตลาดนั่นเองค่ะ